พระพิฆเนศ ปางนฤตยะ มหามงคล ๙๑๐ เนื้อเงินมุก (โคท 8) ขนาด 4 เซ็น จัดสร้างโดย คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา พ.ศ.2562 พร้อมกล่องเดิม

   พระพิฆเนศวรเป็นโอรสของพระอิศวรและพระอุมาเทวี มีรูปกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง ทุกคนเคารพนับถือท่านในฐานะที่ท่านเป็น "วิฆเนศ" นั่นคือ เจ้า (อิศ) แห่งอุปสรรค (วิฆณ) เพราะเจ้าแห่งอุปสรรค ที่สามารถปลดปล่อยอุปสรรคได้ และอีกความหมายถึง ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จในทุกศาสตร์สรรพสิ่งหรือเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นใหม่ทั้งปวง เมื่อพิจารณาความหมายในทางสัญญะ รูปกายที่อ้วนพีนั้นมีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์ เศียรที่เป็นช้างมีความหมาย หมายถึงผู้มีปัญญามาก ตาที่เล็กคือ สามารถมอง แยกแยะสิ่งถูกผิด หูและจมูกที่ใหญ่หมายถึง มีสัมผัสพิจารณา ที่ดีเลิศ พระพิฆเนศวรมีพาหนะคือ หนู ซึ่งอาจเปรียบได้กับความคิด ที่พุ่งพล่าน รวดเร็ว ดังนั้น มนุษย์จึงต้องมีปัญญากำกับเป็นดั่งเจ้านายในใจตน  มีรูปกายเป็นมนุษย์อ้วนเตี้ย ท้องพลุ้ย มีเศียรเป็นช้าง มีงาข้างเดียว (ถูกขวาน ปรศุรามหักเสียงา) สีกายสีแดง (บางแห่งว่าผิวเหลือง นุ่งห่มแดง) มีสี่กร พระหัตถ์หน้าขวาถืองาช้าง พระหัตถ์ซ้ายถือขันน้ำมนต์ เป็นกระโหลกศีรษะมนุษย์ พระหัตถ์หลังขวาถือ ตรี พระหัตถ์ซ้ายถือบาศ (บ่วง) พาหนะคือ หนู

          เหตุที่พระพิฆเนศวรทรงมีเศียรเป็นช้าง เนื่องจากเมื่อครั้งทรงกำเนิด มีพระนามเดิมว่า "ขันธกุมาร" เมื่อเจริญวัยถึงขั้นทำพิธีโสกันต์ (โกนจุก) แล้ว พระศิวะ พระบิดาได้มีบัญชาให้เชิญเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ มาร่วมในงานพิธี สำหรับพระวิษณุซึ่งกำลังบรรทมอยู่ ณ เกษียรสมุทร เมื่อถูกปลุกให้ตื่นจากบรรทม ทรงพลั้งโอษฐ์ไปว่า "ไอ้ลูกหัวหาย ช่างกวนใจจริง" ด้วยวาจาสิทธิ์ของพระวิษณุนี้ ได้ทำให้ศีรษะของพระขันธกุมารหายไปทันที ท่ามกลางความตกใจของเหล่าทวยเทพ พระศิวะจึงมีบัญชาให้พระวิษณุกรรมลงไปยังโลกมนุษย์ เพื่อหาหัวคนที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว โดยต้องเอาผู้ที่นอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกอันเป็นทิศของคนตาย มาต่อเป็นเศียรพระขันธกุมาร ปรากฏว่ายังไม่มีผู้ใดถึงที่ตาย และพบแต่เพียงช้างแม่ลูกอ่อนคู่หนึ่งที่นอนหัวหันไปทางทิศตะวันตก จึงตัดหัวช้างมาสวมให้พระขันธกุมาร จึงมีเศียรเป็นช้างมาตั้งแต่บัดนั้น

     ***ด้วยเหตุที่คณะดนตรีและการแสดงมีรากฐานมาจากดนตรีไทย  นาฏศิลป์ไทย โดยมุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอน  การวิจัย  การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมด้วยการนวัตวัฒนธรรมโดยนำความเชื่อ  อุดมคติ  ขนบธรรมเนียมประเพณี ฯลฯ และศิลปะประจำชาติของไทยนำมาพัฒนา สร้างสรรค์  คณะ ฯ ได้ดำเนินการจัดพิธีไหว้ครูมาอย่างตลอดต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล  มีสัญลักษณ์ที่เป็นเครื่องยึดเหนื่อยจิตใจจึงมีความประสงค์สร้างองค์พระพิฆเนศวร ปางนฤตยะประจำคณะดนตรีและการแสดงขึ้น เพื่อให้นิสิต  บุคลากร  บุคคลทั่วไปได้มีโอกาสสักการะ โดยมีสัญลักษณ์ของความสำเร็จเป็นเครื่องตอกย้ำเป้าหมายในการปฏิบัติงานและการดำเนินชีวิต เป็นการหลอมรวมพลังความดี ศรัทธาที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของนิสิตเก่า  นิสิตปัจจุบัน คณาจารย์ และประชาชนทั่วไป คณะดนตรีและการแสดงจึงมีดำริจัดสร้างองค์พระพิฆเนศวรเพื่อเป็นสิริมงคลต่อการศึกษาด้านศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ โดยได้รับความกรุณาจากนาวาอากาศตรีธีรัชย์  ชื่นใจ นายทหารอากาศ เป็นผู้ออกแบบและจัดสร้างพระพิฆเนศวร ปางนฤตยะ คณะปติเทพ ซึ่งมีความหมายถึงราชาแห่งการร่ายรำและศิลปะการแสดง อันเป็นอวตารปางที่ ๑๕ ของพระพิฆเนศวรจาก ๓๒ ปางที่สำคัญ และเป็น ๑ ใน ๑๖ ปางแรกที่ทรงอำนาจมากที่สุด***
วัตถุประสงค์ของโครงการ
    ๑. เพื่อเป็นกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี  มหาวิทยาลัยบูรพา
    ๒. เพื่อระดมทุนด้วยวิธีบริจาคบูชาองค์ขนาดเล็กเพื่อจัดสร้างองค์พระพิฆเนศวรขนาดสูง 3 เมตร 
เพื่อให้คณาจารย์ฯ ศิษย์เก่า-ใหม่ และประชาชนผู้ศรัทธาทั่วไปได้มีวัตถุมงคล ไว้สักการบูชา เป็นที่เคารพยึดเหนี่ยวจิตใจ ประดิษฐาน ณ บริเวณพื้นที่ด้านหน้าอาคารนวัตกรรมวัฒนธรรมและศิลปะ (มูลนิธิท่านอนันต์ อนันตกูล)   
    3. เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือจากการบริจาคบูชา จัดตั้งกองทุนกิจการนักศึกษาคณะดนตรีและการแสดง